วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

ฉู่ฉี่กุ้ง คืออะไร ?

" ฉู่ฉี่กุ้ง "


"ฉู่ฉี่" เป็นอีกหนึ่งอาหารไทย จะว่าไปก็คล้ายๆกับ "พะแนง"หรือแกงคั่ว แตกต่างกันก็ตรงน้ำพริกแกงที่ใช้ "น้ำพริกแกงฉู่ฉี่" จะไม่ใส่จำพวกเครื่องเทศ ลูกผักชี ยี่หร่า ส่วน "น้ำพริกแกงพะแนง" จะใส่ลูกผักชี ยี่หร่าลงไปด้วย
รวมทั้งถั่วลิสงหรือถั่วทอง โขลกรวมกันเป็นน้ำพริกแกงพะแนงและที่แตกต่างกันอย่างเห็ดได้ชัด พะแนงมักจะมากน้ำมักนิยมใช้เนื้อสัตว์บก จำพวกเนื้อหมูเนื้อวัว หรือเนื้อไก่และพะแนงมักจะใส่มะเขือพวงลงไปด้วย
ส่วนฉู่ฉี่ มักจะใช้สัตว์น้ำ จำพวกปลา หรือกุ้งเป็นส่วนมากเช่น ฉู่ฉี่ปลาหมอ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน หรือฉู่ฉี่กุ้งและที่สำคัญมันทำได้ง่าย และอร่อยมากอีกด้วย!!น้ำแกงฉู่ฉี่จะค่อนข้างเข้มข้น ส่วนกรรมวิธีในการปรุงก็คล้ายๆกันครับ ฉู่ฉี่ กับพะแนง

ประโยชน์ของฉู่ฉี่กุ้ง



สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานอาหารทะเล คงไม่พลาดกับการสั่งอาหารจานกุ้งทั้งต้มยำกุ้งหรือกุ้งอบวุ้นเส้น แต่ทราบหรือไม่ค่ะว่านอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว

      กุ้งยังมีประโยชน์อีกด้วยถึงแม้ว่าหลายคนจะคิดว่ากุ้งมีคอเลสเตอรอลสูง แต่จริงๆ แล้วคอเลสเตอรอลที่พบในกุ้งนั้น เป็นคอเลสเตอรอลชนิดดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และกุ้งยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่น กระปรี้ประเปร่า และแคลเซียมที่อยู่ในเปลือกกุ้งก็ยังสามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเจ้ากุ้งรสชาติแสนอร่อยจะมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ แต่ทั้งนี้เพื่อสุขภาพที่ดีก็ควรจะทานแต่พอเหมาะพอควร และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ประมาทและมีสุขภาพที่ดี




ในกะทิมีวิตามินหลายชนิด แร่ธาตุ และอิเล็กโทรไลท์ รวมทั้งโพแทสเซียม แคลเซียม และคลอไรด์ไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวในน้ำมันมะพร้าวถูกสร้างขึ้นจากกรดไขมันห่วงโซ่สั้นและห่วงโซ่กลางได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นพลังงานแทนการจัดเก็บเป็นไขมัน ดังนั้นแม้ว่าไขมันอิ่มตัวจะสูง แต่มะพร้าวสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้






กรดไขมันที่มีขนาดปานกลาง ซึ่งถูกย่อยได้ง่าย และเคลื่อนย้ายได้สะดวก เมื่อบริโภคเข้าไป จะผ่านลำคอไปยังกระเพาะเข้าสู่ลำไส้ แล้วไปถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมันเหมือนกับน้ำมันไม่อิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ดังนั้นผู้บริโภคกะทิจึงแข็งแรงเพราะได้พลังงานทันทีที่บริโภคเข้าไป

พริกแกงคั่ว

น้ำพริกแกงไทย


 ส่วนผสม น้ำพริกแกงคั่ว (สำหรับ 100 กรัม)


     • พริกแห้งเม็ดใหญ่ เม็ด
     • เกลือป่น ช้อนชา
     • ข่าหั่นละเอียด ช้อนชา
     • ตะไคร้หั่นละเอียด ช้อนโต๊ะ
     • หอมแดงซอย ช้อนโต๊ะ
     • กระเทียมซอย ช้อนโต๊ะ
     • กะปิ ช้อนชา

วิธีทำน้ำพริกแกงคั่ว


     • 1. แกะเมล็ดจากพริกแห้ง แล้วจึงนำผิวพริกแช่น้ำไว้สักครู่ แล้วบีบน้ำออกจนพริกหมาด จึงหั่นละเอียด
     • 2. โขลกพริกแห้งกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ โขลกจนละเอียดเติมหอม กระเทียม โขลกให้เข้ากัน จึงใส่กะปิโขลกให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
     • 3. เทน้ำมันพืช ช้อนโต๊ะ ลงในกระทะใช้ไฟอ่อน พอน้ำมันอุ่น ใส่น้ำพริกลงผัดประมาณ นาที แล้วตักออกใส่ภาชนะ

          เคล็ดลับ : พริกแห้งเม็ดใหญ่ ควรเลือกพริกที่แห้งสนิท สีแดงเข้ม เม็ดยาวเต็ม มีก้านติด ไม่หัก ไม่ขึ้นรา ไม่มีกลิ่นอับ




กุ้ง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ประโยชน์กุ้ง


"กุ้ง" นอกจากอร่อยแล้ว ยังเป็นอาหารสารพัดประโยชน์

กุ้งมีไขมันน้อยมาก และไม่มีไขมันอิ่มตัวเลย กุ้งประกอบด้วยสังกะสีและซีลีเนียมในปริมาณสูง แร่ธาตุเหล่านี้เสริมความแข็งแกร่งให้กับภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความต้านทานต่อการติดเชื้อ กุ้งยังช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ตับเป็นอวัยวะสำคัญในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย จึงต้องมีศักยภาพในการทำงานที่ระดับสูงสุดเพื่อกำจัดสารพิษ และของเสียให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบว่าสังกะสีในกุ้งมีประโยชน์ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด ตับยังมีบทบาทในการเผาผลาญไขมันด้วย

กุ้งมีเกลือสูง ดังนั้นควรล้างก่อนใช้ และไม่ควรเติมเกลือเพิ่มไปในอาหารที่ประกอบด้วยกุ้ง

ใบมะกรูด


สรรพคุณ  :  ตำรายาไทย: ใบมะกรูด มีรสปร่า หอม แก้ไอ แก้อาเจียนเป็นโลหิต แก้ช้ำใน กัดเสมหะในคอ แก้น้ำลายเหนียว กัดเถาดานในท้อง แก้ระดูเสียฟอกโลหิตระดู ขับระดู ขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียดปรุงอาหารดับกลิ่นคาว

ชื่อเครื่องยา
มะกรูด(ใบ)
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา
ได้จาก
ใบ
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา
มะกรูด
ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา)
มะขุน มะขูด (พายัพ) ส้มกรูด ส้มมั่วผี(ใต้) มะหูด(หนองคาย)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Citrus hystrix DC.
ชื่อพ้อง
Citrus papeda Miquel. Citrus tuberoides J.W. Bennett
ชื่อวงศ์
Rutaceae

อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

     น้ำมันพืช      1         ช้อนโต๊ะ


                                   กุ้งแกะเปลือกออกแล้ว     10      ตัว
                                        พริกแกง         1       ช้อนโต๊ะ  
                                         กะทิ                6     ช้อนโต๊ะ
                                       ใบมะกูดหั่นฝอย     1       ช้อนโต๊ะ
                                      พริกชี้ฟ้าหั่นเฉลียง     1/2    ช้อนโต๊ะ
                                          น้ำตาล        1- 2       ช้อนชา
                                           น้ำปลา        1/2-1     ช้อนโต๊ะ

          * ทริป ผงชูรสปลายช้อนชาก็พอค่ะไม่ชอบไม่ต้องใส่

วิธีการทำ

1. เอาน้ำมันเทใส่กระทะโดยใช้ไฟอ่อนพอน้ำมันร้อนให้เราเอาพริกแกงลงไป


2.
ผัดพริกแกงให้แตกมันจากนั้นเราค่อยๆเติมกะทิลงไปทีละน้อยจนหมดเคี่ยวให้กะทิแตกมันดี


3. ปรุงรสตามใจชอบ


4. หลังจากปรุงเสร็จแล้วเราก็เอากุ้งลงไปในหม้อ


5.
เมื่อกุ้งสุกก็ตักกุ้งออกจากหม้อใส่จาน


    

สมาชิกกลุ่ม

1.    นาย สุเมธ           กีรติบำรุงพงศ์      ม.5/3       เลขที่ 2
2.    นาย นิพิฐพนธ์     ทองคำ            ม.5/3           เลขที่ 5
3.    นาย ชนกันต์        ใยเทศ            ม.5/3            เลขที่ 14
4.    น.ส. ธนกฤตา      รัตนชยามร        ม.5/3         เลขที่ 23
5.    น.ส. อุษามาศ       สายรักษา          ม.5/3         เลขที่ 24
6.    น.ส. วรพรรณ     สีสวัสดิ์            ม.5/3          เลขที่ 32
7.    นาย ธีรโชติ         วงษ์สำราญ        ม.5/3         เลขที่ 34
8.    น.ส. ณัฐนรี         เรืองขำ            ม.5/3           เลขที่ 36
9.    น.ส. จินดาพร      ปิ่นทอง           ม.5/3           เลขที่ 37
10. นาย นฤเทพ        อินทรวิสุทธิ์         ม.5/3        เลขที่ 40